ตำรวจพิจิตรยืนยันผู้ใดใครก่อคดีในเขตเมืองชาละวันอย่าคิดว่าจะหนีรอดพ้นสายตาของตำรวจที่เฝ้าตรวจทุกมุมเมืองด้วยกล้อง CCTV 300 จุด ระบบเทคโนโลยีทันสมัยด้วยระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติและความคมชัดที่สามารถสแกนเห็นเลขป้ายทะเบียนรถและรูปพรรณสัณฐานเอกลักษณ์บุคคลได้อย่างชัดเขนแถมมีโปรแกรมอัตโนมัติเฝ้าติดตามบุคคลผู้เป็นภัยต่อสังคมเพียงแค่ปรากฎใบหน้ากล้องจะรายงานผลทันที
วันที่ 25 มิ.ย. 2562 พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงการนำเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด CCTV เข้ามาใช้ในการรักษาความปลอดภัยและติดตามผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรตามโครงการ I’m watching you ว่า…ขณะนี้ตำรวจพิจิตรได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดCCTV ตามสี่แยกและในเขตชุมชนของจังหวัดพิจิตรรวมแล้ว 300 จุด โดยเชื่อมโยงภาพและข้อมูลมายังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ 191 เฝ้ามองหน้าจอตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกล้อง CCTVทั้งหมดนี้ได้รับงบประมาณจากจังหวัดพิจิตร ในการติดตั้ง ซึ่งเป็นกล้องที่มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถบันทึกและจดจำใบหน้าของบุคคลเป้าหมายที่มีประวัติอาชญากรรมเพียงแค่เดินผ่าน หรือ ขับรถผ่านกล้อง กล้องก็จะมีระบบประมวลผลแจ้งเตือนว่า บุคคลดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดคดี ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือเกิดอุบัติเหตุชนแล้วหนีหรือเหตุฆาตกรรมที่เป็นคดีแล้วเจ้าทุกข์หาเบาะแสพยานหลักฐานให้ตำรวจไม่ได้ก็ได้อาศัยกล้องCCTVค้นหาหลักฐานจนสามารถจับตัวผุ้กระทำผิดได้ แต่กล้องเท่าที่มี 300 จุด ก็ยังไม่เพียงพอ
ล่าสุด พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ สว.หน.ศูนย์191 กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัท เอเซ็ดคิง จำกัด โดย คุณพันธพัฒน์ พิณสวัสดิ์ และ บริษัท ไวเด้น เทรดดิ้ง จำกัด โดยคุณเจนวัฒน์ ภักดีกิจ ทั้ง 2 บริษัทได้เข้าพบ พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และแสดงเจตนาร่วมกันบริจาคกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV Ai Camera Face Recognition & Detection จำนวน 36 ชุด พร้อมอุปกรณ์ระบบติดตั้งทั้งหมดเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท ที่จะทำการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวตลอดเส้นทาง ระยะทาง 3 กิโลเมตร ของถนนศรีมาลา ซึ่งเป็นถนนเส้นทางหลักกลางเมืองและเป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดพิจิตร โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ สิ้นสุดและเสร็ขสิ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 อีกด้วย
ในส่วนของ พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ยากฝากบอกถึงประชาชน ว่าตำรวจพิจิตร เฝ้าดูเหตุการณ์ต่างๆตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นขอเตือนบรรดามิจฉาชีพ หรือ ผู้ที่จะคิดก่อเหตุต่างๆขอให้พึงสังวรณ์ว่า หากกระทำผิดกฏหมายในเขตรับผิดชอบของตำรวจพิจิตรอย่าได้คิดว่าจะหนีรอด เพราะทุกคดีที่เกิดขึ้นสามารถจับคนร้ายและได้หลักฐานจากกล้องCCTVมาแล้วนับคดีไม่ถ้วน
เครดิตข้อมูลข่าวโดย : https://www.banmuang.co.th