วันที่ 3 ต.ค. ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) พ.ต.อ.กิตติ อริยานนท์ รองผบก.จร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรด้วยกล้องอัตโนมัติ หรือเรดไลต์ คาเมร่า จำนวน 30 จุด ในเขตกรุงเทพมหานคร ว่า มาตรการดังกล่าวเริ่มมีการตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรด้วยกล้องอัตโนมัติตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา ซึ่งผลสรุปการตรวจจับจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2562 ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประมาณกว่า 10,000 ราย โดยกำหนดให้ผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำความผิดและได้รับใบสั่งต้องมาชำระภายใน 1 เดือน ปรากฏว่าในจำนวนนี้มีผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำความผิดมาชำระค่าปรับ 695 ราย แยกเป็นรถยนต์ 620 ราย รถจักรยานยนต์ 75 ราย ถือว่าน้อยมากเมื่อเปรียบกับผลการตรวจจับ อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะมีผลวันที่ 19 ธ.ค.2562 คาดว่าผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำผิดจะยอมมาชำระค่าปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะมีผลต่อการชำระภาษีรถประจำปี
รอง ผบก.จร. กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่มีชำระค่าปรับตามกำหนด บก.02 จะส่งหนังสือแจ้งเตือนให้มาชำระภายใน 15 วัน และถ้ายังไม่มีชำระจะส่งหมายเรียกอีกครั้งจนครบกำหนด 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกใบสั่งบก.02 จะส่งข้อมูลให้กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อดำเนินการรับชำระค่าปรับตามใบสั่งที่ค้างชำระแทน หากไม่ยอมชำระอีก กรมการขนส่งทางบกจะออกเครื่องหมายแสดงภาษีประจำปี หรือป้ายวงกลมชั่วคราวให้ชั่วคราว 30 วัน กรณีชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้วก็จะได้รับป้ายวงกลมตามปกติ แต่ถ้าไม่ชำระให้ครบถ้วนตำรวจจะส่งหนังสือถึงนายทะเบียนให้กรมการขนส่งทางบกให้งดออกป้ายวงกลม หากนำรถคันดังกล่าวมาใช้ก็จะมีความผิดข้อหานำรถมาใช้โดยไม่ชำระภาษีประจำปีเพิ่มอีกด้วย.
เครดิตข้อมูลข่าวโดย : https://www.thairath.co.th
