สหรัฐฯ เริ่มใช้ระบบจดจำใบหน้า ย่นเวลาต่อแถวขึ้นเครื่อง

ระบบการจดจำใบหน้าถูกนำมาใช้แล้วที่ท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลสเพื่อช่วยลดการติดขัดของผู้โดยสารที่กำลังขึ้นเครื่อง

เจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเผยระบบจดจำใบหน้าระบบใหม่สองระบบ โดยระบบหนึ่งใช้เพื่อตอบรับกับข้อบังคับทางกฎหมายในการบันทึกข้อมูลทางชีวภาพเมื่อเข้าและออก และอีกระบบหนึ่งใช้เพื่อช่วยให้ขั้นตอนการดำเนินการกับผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศรวดเร็วขึ้นด้วยการจับคู่ใบหน้าของพวกเขากับรูปภาพที่มีข้อมูลเก็บไว้อยู่แล้ว

เควิน แม็คอาลีแนน กรรมาธิการจากสำนักศุลกากรและการป้องกันชายแดนสหรัฐอเมริกากล่าวว่าเทคโนโลยีนี้ใช้ได้ผล “มันเร็ว มันเป็นมิตรต่อผู้ใช้ มันยืดหยุ่นและคุ้มค่า และเราเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนโฉมหน้าการเดินทางระหว่างประเทศ” และในอนาคตระบบจดจำข้อมูลทางชีวภาพก็จะทำให้ใบหน้าของผู้เดินทางมาแทนที่การใช้ตั๋วขึ้นเครื่อง

แม็คอาลีแนนกล่าวว่าไม่ต้องหาตั๋วขึ้นเครื่องอีกต่อไปเวลาที่ถือกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องสองใบ หรือเวลาที่มีเด็กมาด้วย และไม่ต้องพยายามหาคิวอาร์โค้ดหรือพยายามรีเฟรชหน้าจอโทรศัพท์อีกแล้ว โดยในการทดลองระบบครั้งหนึ่ง แม็คอาลีแนนกล่าวว่าผู้โดยสารทั้ง 350 คนขึ้นเครื่องแอร์บัสเอ 380 ภายในเวลา 20 นาที ซึ่งเวลาลดลงจากปกติถึงครึ่งหนึ่ง

นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้วยการรับรองว่าผู้เดินทางใช้หนังสือเดินทางจริง ไม่ใช่เอกสารปลอม โดยจะจับคู่ใบหน้าเข้ากับรูปถ่ายจากหนังสือเดินทางที่มีอยู่แล้วหรือรูปที่ได้จากการเก็บภาพใบหน้าของชาวต่างชาติเมื่อพวกเขาเดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ

ท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลสเริ่มใช้ระบบตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ก่อนมีงานเปิดตัวรอบสื่อ และภายในสามวันที่ใช้ก็ได้ช่วยจับกุมตัวชายสามคนที่พยายามจะใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้ามายังสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกยังคงถกเถียงเรื่องการใช้ระบบจดจำใบหน้าในประเด็นเรื่องการตรวจตราและความเป็นส่วนตัว

เครดิตข้อมูลข่าวโดย : http://www.newtv.co.th