สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สนามบินชางงี ของสิงคโปร์ กำลังทดสอบระบบจดจำใบหน้า ด้วยการใช้กล้องติดตั้งบนเสาเชื่อมโยงกับซอฟต์เเวร์ในการจดจำใบหน้า เพื่อช่วยค้นหานักท่องเที่ยวที่อาจหลงทาง หรือใช้นักท่องเที่ยวที่กำลังใช้จ่ายอยู่ตามร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน
สนามบินชางงี ถูกจัดอันดับว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก เป็นเวลากว่า 6 ปี จากการสำรวจของ Skytrax ที่ปรึกษาด้านการเดินทางทางอากาศ ซึ่งขณะนี้กำลังมองหาวิธีการใช้เทคโนโลยีภายในสนามบินอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม การที่สนามบินจะใช้ระบบจดจำใบหน้านั้น ก่อให้เกิดความกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัว
สตีฟ ลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของกลุ่มสนามบินชางฮี กล่าวกับรอยเตอร์สว่า การทดลองของสนามบินนับเป็นการเข้าไปเเก้ปัญหาอย่างเเท้จริง
“เรามีรายงานจำนวนผู้โดยสารที่สูญหาย สิ่งที่เราสามารถคิดเเละทำได้คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาตรวจจับใบหน้า หาบุคคลที่อยู่บนเที่ยวบินนั้นๆ เเละเเน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวได้รับอนุญาตจากสายการบินเเล้ว” ลี กล่าว
สำหรับเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับคู่ใบหน้าของบุคคลต่างๆ ตามฐานข้อมูลได้ นายลี กล่าวว่า ขณะนี้พวกเขากำลังดำเนินการทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าว เเละได้ร่วมงานกับหลายบริษัท ซึ่งมีเวลาทำราว 1 ปี เเละปฏิเสธที่จะบอกรายละเอียดบริษัทที่เข้าร่วมต่างๆ
ด้านบริษัทจากจีน “Yitu” เพิ่งเปิดสำนักงานแห่งแรกในสิงคโปร์เมื่อเร็วๆ นี้กล่าวกับรอยเตอร์ส ว่า กำลังเจรจากับทางสนามบินชางงี ถึงเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ที่สามารถระบุตัวตนได้ถึง 1.8 พันล้านใบหน้า ในเวลาเพียง 3 วินาที
นอกจากนี้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าจะช่วยในเรื่องของการเข้าเช็คอินกระเป๋า การเข้าเมือง เเละการขึ้นเครื่อง ซึ่งจะทำให้การเข้าคิวน้อยลง เเละสนามบินอยู่ในช่วงที่กำลังหาทางใช้ระบบจดจำใบหน้าในอาคารเก่า 3 หลังภายในสนามบิน เพื่อช่วยในเรื่องการขนส่งกระเป๋า รวมถึงการอพยพอีกด้วย
เเละในอนาคตการเดินทางภายในสนามบิน อาจไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง เพียงเเค่ใช้ระบบจดจำใบหน้าก็เพียงพอ เทคโนโลยีจะเข้าช่วยเสริมศักยภาพทุกด้าน ตั้งเเต่การวางเเผนไปจนถึงการเข้าคิว
นายลี กล่าวทิ้งท้ายว่า คุณไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นประเทศที่ชาญฉลาด หากสนามบินยังไม่ได้รับการพัฒนา
เครดิตข้อมูลข่าวโดย : https://www.prachachat.net